รู้หรือไม่คะ ว่ามะเร็งเต้านม ไม่ได้พบแค่ในเพศหญิงอย่างเดียว แต่มันสามารถพบได้ทั้งในเพศชายด้วย แต่จะพบในเพศชายน้อยกว่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป หรืออาจจะเป็นกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่ ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดงออกมา เลยอาจจะทำให้หลายคนไม่รู้ตัว จนคลำเจอก้อนเนื้อในเต้านม หรือที่บริเวณรักแร้แล้วถึงจะไปพบแพทย์ ซึ่งมันเสี่ยงต่อการรามไปเป็นมะเร็งในระยะที่อันตรายขึ้นได้ ดังนั้นการเฝ้าสังเกตอาการ และการไปตรวจมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยอาจะสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
สัญญาณเตือนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
- มีก้อนในเต้านมหรือใต้วงแขน ก้อนเหล่านี้อาจรู้สึกแข็งหรือมีลักษณะเป็นจุดที่แข็งขึ้นในเนื้อเยื่อเต้านม ซึ่งมักจะไม่เจ็บเมื่อสัมผัส
- การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบนเต้านม รวมถึงการหดตัวหรือการหย่อนคล้อยของผิว หรือการเปลี่ยนสีของผิวที่ดูเหมือนเปลือกส้ม
- การเปลี่ยนแปลงของหัวนม หัวนมที่เริ่มหุบเข้าไปหรือเปลี่ยนทิศทาง มีอาการคัน หรือมีสีผิวเปลี่ยนไป
- การปล่อยของเหลวจากหัวนม สังเกตเห็นน้ำหรือเลือดออกจากหัวนมซึ่งไม่ได้มีสาเหตุจากการให้นมบุตร
- ผิวหนังที่เต้านมมีลักษณะเป็นเปลือกส้ม บริเวณผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลักษณะเหมือนเปลือกส้มหรือมีการตกกระหรือหลุมเล็กๆ
- การเปลี่ยนแปลงของขนาดหรือรูปร่างของเต้านม สังเกตเห็นว่าเต้านมหนึ่งข้างมีขนาดหรือรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากอีกข้างหนึ่ง
วิธีป้องกันมะเร็งเต้านม และการรักษามะเร็งเต้านม
วิธีป้องกันมะเร็งเต้านม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีวิธีการป้องกันมะเร็งเต้านมอย่างสมบูรณ์ แต่หากทำตามนี้ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้
- การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควบคุมน้ำหนักตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ของการออกกำลังกายแบบมีแรงต้านหรือ 75 นาทีของการออกกำลังกายแบบเข้มข้น
- ลดการบริโภคแอลกอฮอล์หรือหลีกเลี่ยงไม่ดื่มเลย
- หยุดสูบบุหรี่ สูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อหลายๆ ประเภทของมะเร็งรวมถึงมะเร็งเต้านม
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ เข้ารับการตรวจเต้านมประจำตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเอกซเรย์
- การจัดการฮอร์โมนบำบัด สำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ควรพิจารณาความเสี่ยงและประโยชน์ของฮอร์โมนบำบัดกับแพทย์
การรักษามะเร็งเต้านม
ในการรักษามะเร็งเต้านมของแต่ละบุคคลจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับประเภทและระยะของมะเร็ง รวมถึงสุขภาพทั่วไปของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละบุคคลด้วย
- การผ่าตัด เอาก้อนมะเร็งหรือเต้านมทั้งหมดออก มีหลายประเภทของการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดมะเร็งเต้านมบางส่วน (lumpectomy) หรือ การผ่าตัดเอาเต้านมทั้งหมดออก (mastectomy)
- การฉายรังสี ใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือหลังจากการผ่าตัด
- การรักษาด้วยยา รวมถึงเคมีบำบัด ฮอร์โมนบำบัด และการรักษาที่กำหนดเป้าหมาย เช่น HER2 inhibitors
- การบำบัดด้วยฮอร์โมน ใช้สำหรับมะเร็งเต้านมที่ตอบสนองต่อฮอร์โมน เช่น estrogen
กล่าวโดยสรุป
ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม โดยมีปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงมากมาย ทั้งอายุ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การป้องกันที่ดีคือหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายและไปตรวจมะเร็งเต้านมอย่างเป็นประจำ หากพบสัญญาณเตือนถึงการเป็นมะเร็งเต้านม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ตรวจเจอเร็วรักษาเร็วมีโอกาสหายขาดสูงค่ะ